พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
หลวงปู่เจ้าท่า....
หลวงปู่เจ้าท่า..ปฐมบทพระนาคปรกท่ากลาง
ประวัติองค์หลวงปู่เจ้าท่า

หลวงปู่เจ้าท่าเป็นวัตถุโบราณสมัยทวารวดี ซึ่งมีอายุกว่า 2000 ปี แต่ก่อนประดิษฐานอยู่ในลำน้ำชี ด้านทิศตะวันตกวัดท่ากลาง พ.ศ.2512 คณะสงฆ์ พร้อมด้วยชาวบ้านท่ากลางและใกล้เคียง ตลอดถึงประชาชนทั่วไป ได้อัญเชิญองค์หลวงปู่ขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดท่ากลาง โดยสร้างมณฑปเป็นที่ประดิษฐานไว้อน่างถาวร
พ.ศ.2513 ได้สร้างองค์จำลองหลวงปู่จำนวน 2000 องค์ โดยผ่านพิธีปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 รูป เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นสิริมงคลแก่ผู้เคารพสักการะ

พ.ศ.2513 กรมศิลปากรได้จดทะเบียนขึ้นเป็นวัตถุโบราณให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน และมอบให้ชาวบ้านท่ากลางเป็นผู้ดูแลรักษาสืบไป

ลักษณะขององค์หลวงปู่
องค์หลวงปู่ทำด้วยศิลาทราย.เป็นรูปลักษณะใบพัทสีมา ยาว 180 ซม. กว้าง 80 ซม. ตรงกลางองค์หลวงปู่เป็นรูปพระพุทธรูปปางขัดสมาธิซึ่งพระปรัศว์ซ้ายขวามีรูปพระอัครสาวก คือ พระโมคคัลลณะ และพระสารีบุตรถวายอุปัฎฐากอยู่ด้วยรอบองค์หลวงปู่มีพระคาถาเป็นอักษรขอมเพื่อเป็นมงคลแก่ผู้สักดาระบูชา ดังนี้

1.ด้านหลังเป็นพระคาถามหาลาภและอำนวยสุข
2. ด้านขวาเป็นพระคาถามหานิยมมหาเสน่ห์
3. ด้านซ้ายเป็นพระคาถาอยู่ยงคงกระพันป้องกันภยันตราย

ความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ ขององค์หลวงปู่..ซึ่งผม(อบพลับพลาชัย)มีโอกาสได้สอบถามพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่รวมถึงท่านเจ้าอาวาทองค์ปัจจุบัน..และได้รวบรวมเรียบเรียงได้พอสังเขปดังนี้..เมื่อก่อนเดิมทีองค์หลวงปู่ประดิษฐานอยู่บนต้นไม้ริมฝั่งแม่น้ำชี ส่วนจะด้วยเหตุผลใดหรือใครนำมานั้นไม่มีใครทราบได้..ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากวัดท่ากลางที่องค์หลวงปู่ประดิษฐานในปัจจุบันประมาณ 3-4 กิโลเมตร ต่อมาต้นไม้ดังกล่าวได้โค่นล้มด้วยแรงน้ำกัดเซาะตลิ่งตรงจุดนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านว่าท่าเพิง(ซึ่งเพิงเป็นภาษาอิสานหมายถึงพัง เสียหาย..ท่าเพิงจึงหมายถึงท่าน้ำที่ตะลิ่งพังเสียหายและได้เพิ้ยนเป็นบ้านท่าเพลิงในปัจจุบัน.ซึ่งเป็นคนละความหมายกัน)..ทำให้องค์หลวงปู่จมลงในลำน้ำชี..ตรงจุดที่ต้นไม้นั้นโค่นลง..ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น..เวลาจะลงหาปลาหรือสัญจรไปมาในลำน้ำชี้..ทุกครั้งจะต้องกราบไหว้ขอพรทุกครั้งไป..ในวันพระชาวบ้านจะเห็นลำแสงสีทองส่องสว่างอยู่กลางลำน้ำตรงที่หลวงปู่จมอยู่เสมอ..วันเวลาผ่านไปการแสดงอิทธิฤทธิ์ของหลวงปู่ให้ชาวบ้านเห็นแสงสว่างในเวลากลางคืนวันพระนั้น..เริ่มเปลี่ยนจุดไปเรื่อยๆจากจุดเดิมที่บ้านท่าเพลิง..มาจนถึงบ้านท่ากลาง..เรื่อยมาจนถึงบ้านแจ้งจม..ระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตรจากจุดที่ชาวบ้านได้พบองค์หลวงปู่ในครั้งแรก..ซึ่งเป็นจัดสุดท้ายก่อนที่ชาซึ่งชาวบ้าน จะได้อัญเชิญหลวงปู่ขึ้นมาประดิษฐานในมณฑป ดังที่เห็นในปัจจุบัน..ตรงจุดบ้านแจ้งจมนี่เอง..ชาวบ้านเห็นแสงสว่างสีทองกลางลำน้ำชี..แล้วสักครู่แสงก็วูบจางหายไป..จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านตรงจุดนั้นว่า บ้านแจ้งจม..คือหมายถึงแสงสว่างขึ้นแล้วจมหายไปนั้นเอง..เมื่อก่อนตรงจุดบ้านแจ้งจมนี่เองจะเป็นจุดข้ามลำชี ของชาวบ้าน..เพราะสะพานที่ข้ามแม่น้ำชีในปัจจุบันยังไม่มี...หน้าแล้งแม่น้ำชีบางจุดสามารถเดินข้ามได้..ชาวบ้านจะนำช้าง ม้าวัว ควายข้ามไปมาเสมอ..และทุกครั้งที่นำสัตว์ข้ามถ้าไม่จุดธูปเทียนบอกกล่าวขอทางองค์หลวงปู่เสียก่อนครั้งหนึ่งควาญช้างจะนำช้างข้ามไปอีกฝั่งช้างจะร้องส่งเสียงดัง..และไม่อยากจะข้าม..แม้ควาญช้างจะใช้ตะขอช้างสับจนเลือดไหลช้างก็จะไม่ยอมข้ามไป..จนควาญช้างต้องเก็บดอกไม้ธูปเทียนบูชาเพื่อขอผ่านทางเสียก่อน ช้างถึงจะยอมผ่านไปโดยดี...หรือแม้ครั้งหนึ่ง..มีคนคิดจะลักลอบเอาองค์หลวงปู่ขึ้นจากลำชี้..ช่วงหน้าแล้งนำลด..ใช้ทุกวิถีทางทั้งคืนจนเกือบสว่าง..ก็ไม่สามารถนำแผ่นหินดังกล่าวขึ้นมาได้..หลังจากนั้นไม่นาน..กลุ่มคนเหล่านั้นก็เสียชีวิตไปเรื่อย..จนคนสุดท้ายต้องรีบไปกราบขอขมาหลวงปู่..จึงรอดมาได้...ชาวบ้านให้ชื่อหลวงปู่เจ้าท่าตั้งแต่นั้นมา..ซึ่งหมายถึงผู้เป็นใหญ่แห่งท่าน้ำ เรื่องราวปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์ และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เจ้าท่า มีมากมายไม่สามารถเล่าหมดได้
รวบรวมเรียบเรียงโดย อบ พลับพลาชัย
ผู้เข้าชม
5606 ครั้ง
ราคา
99999
สถานะ
โชว์พระ
โดย
ชื่อร้าน
อบพลับพลาชัย
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
eob03
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงไทย / 316-1-42050-0

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
เจริญสุขยอด วัดโพธิ์ponsrithong2พล ปากน้ำswatfrank_tum
ErawanเซียนtermboonsadaoเปียโนBAINGERN
ep8600ทองธนบุรีsomphopchathanumaannatthanetPumnee
hoppermanนรินทร์ ทัพไทยปลั๊ก ปทุมธานีเนินพระ99chaithawatchaokoh
บ้านพระสมเด็จjochoNithipornvanglannasblom โกหมู

ผู้เข้าชมขณะนี้ 442 คน

เพิ่มข้อมูล

หลวงปู่เจ้าท่า..ปฐมบทพระนาคปรกท่ากลาง




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
หลวงปู่เจ้าท่า..ปฐมบทพระนาคปรกท่ากลาง
รายละเอียด
ประวัติองค์หลวงปู่เจ้าท่า

หลวงปู่เจ้าท่าเป็นวัตถุโบราณสมัยทวารวดี ซึ่งมีอายุกว่า 2000 ปี แต่ก่อนประดิษฐานอยู่ในลำน้ำชี ด้านทิศตะวันตกวัดท่ากลาง พ.ศ.2512 คณะสงฆ์ พร้อมด้วยชาวบ้านท่ากลางและใกล้เคียง ตลอดถึงประชาชนทั่วไป ได้อัญเชิญองค์หลวงปู่ขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดท่ากลาง โดยสร้างมณฑปเป็นที่ประดิษฐานไว้อน่างถาวร
พ.ศ.2513 ได้สร้างองค์จำลองหลวงปู่จำนวน 2000 องค์ โดยผ่านพิธีปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 รูป เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นสิริมงคลแก่ผู้เคารพสักการะ

พ.ศ.2513 กรมศิลปากรได้จดทะเบียนขึ้นเป็นวัตถุโบราณให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน และมอบให้ชาวบ้านท่ากลางเป็นผู้ดูแลรักษาสืบไป

ลักษณะขององค์หลวงปู่
องค์หลวงปู่ทำด้วยศิลาทราย.เป็นรูปลักษณะใบพัทสีมา ยาว 180 ซม. กว้าง 80 ซม. ตรงกลางองค์หลวงปู่เป็นรูปพระพุทธรูปปางขัดสมาธิซึ่งพระปรัศว์ซ้ายขวามีรูปพระอัครสาวก คือ พระโมคคัลลณะ และพระสารีบุตรถวายอุปัฎฐากอยู่ด้วยรอบองค์หลวงปู่มีพระคาถาเป็นอักษรขอมเพื่อเป็นมงคลแก่ผู้สักดาระบูชา ดังนี้

1.ด้านหลังเป็นพระคาถามหาลาภและอำนวยสุข
2. ด้านขวาเป็นพระคาถามหานิยมมหาเสน่ห์
3. ด้านซ้ายเป็นพระคาถาอยู่ยงคงกระพันป้องกันภยันตราย

ความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ ขององค์หลวงปู่..ซึ่งผม(อบพลับพลาชัย)มีโอกาสได้สอบถามพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่รวมถึงท่านเจ้าอาวาทองค์ปัจจุบัน..และได้รวบรวมเรียบเรียงได้พอสังเขปดังนี้..เมื่อก่อนเดิมทีองค์หลวงปู่ประดิษฐานอยู่บนต้นไม้ริมฝั่งแม่น้ำชี ส่วนจะด้วยเหตุผลใดหรือใครนำมานั้นไม่มีใครทราบได้..ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากวัดท่ากลางที่องค์หลวงปู่ประดิษฐานในปัจจุบันประมาณ 3-4 กิโลเมตร ต่อมาต้นไม้ดังกล่าวได้โค่นล้มด้วยแรงน้ำกัดเซาะตลิ่งตรงจุดนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านว่าท่าเพิง(ซึ่งเพิงเป็นภาษาอิสานหมายถึงพัง เสียหาย..ท่าเพิงจึงหมายถึงท่าน้ำที่ตะลิ่งพังเสียหายและได้เพิ้ยนเป็นบ้านท่าเพลิงในปัจจุบัน.ซึ่งเป็นคนละความหมายกัน)..ทำให้องค์หลวงปู่จมลงในลำน้ำชี..ตรงจุดที่ต้นไม้นั้นโค่นลง..ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น..เวลาจะลงหาปลาหรือสัญจรไปมาในลำน้ำชี้..ทุกครั้งจะต้องกราบไหว้ขอพรทุกครั้งไป..ในวันพระชาวบ้านจะเห็นลำแสงสีทองส่องสว่างอยู่กลางลำน้ำตรงที่หลวงปู่จมอยู่เสมอ..วันเวลาผ่านไปการแสดงอิทธิฤทธิ์ของหลวงปู่ให้ชาวบ้านเห็นแสงสว่างในเวลากลางคืนวันพระนั้น..เริ่มเปลี่ยนจุดไปเรื่อยๆจากจุดเดิมที่บ้านท่าเพลิง..มาจนถึงบ้านท่ากลาง..เรื่อยมาจนถึงบ้านแจ้งจม..ระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตรจากจุดที่ชาวบ้านได้พบองค์หลวงปู่ในครั้งแรก..ซึ่งเป็นจัดสุดท้ายก่อนที่ชาซึ่งชาวบ้าน จะได้อัญเชิญหลวงปู่ขึ้นมาประดิษฐานในมณฑป ดังที่เห็นในปัจจุบัน..ตรงจุดบ้านแจ้งจมนี่เอง..ชาวบ้านเห็นแสงสว่างสีทองกลางลำน้ำชี..แล้วสักครู่แสงก็วูบจางหายไป..จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านตรงจุดนั้นว่า บ้านแจ้งจม..คือหมายถึงแสงสว่างขึ้นแล้วจมหายไปนั้นเอง..เมื่อก่อนตรงจุดบ้านแจ้งจมนี่เองจะเป็นจุดข้ามลำชี ของชาวบ้าน..เพราะสะพานที่ข้ามแม่น้ำชีในปัจจุบันยังไม่มี...หน้าแล้งแม่น้ำชีบางจุดสามารถเดินข้ามได้..ชาวบ้านจะนำช้าง ม้าวัว ควายข้ามไปมาเสมอ..และทุกครั้งที่นำสัตว์ข้ามถ้าไม่จุดธูปเทียนบอกกล่าวขอทางองค์หลวงปู่เสียก่อนครั้งหนึ่งควาญช้างจะนำช้างข้ามไปอีกฝั่งช้างจะร้องส่งเสียงดัง..และไม่อยากจะข้าม..แม้ควาญช้างจะใช้ตะขอช้างสับจนเลือดไหลช้างก็จะไม่ยอมข้ามไป..จนควาญช้างต้องเก็บดอกไม้ธูปเทียนบูชาเพื่อขอผ่านทางเสียก่อน ช้างถึงจะยอมผ่านไปโดยดี...หรือแม้ครั้งหนึ่ง..มีคนคิดจะลักลอบเอาองค์หลวงปู่ขึ้นจากลำชี้..ช่วงหน้าแล้งนำลด..ใช้ทุกวิถีทางทั้งคืนจนเกือบสว่าง..ก็ไม่สามารถนำแผ่นหินดังกล่าวขึ้นมาได้..หลังจากนั้นไม่นาน..กลุ่มคนเหล่านั้นก็เสียชีวิตไปเรื่อย..จนคนสุดท้ายต้องรีบไปกราบขอขมาหลวงปู่..จึงรอดมาได้...ชาวบ้านให้ชื่อหลวงปู่เจ้าท่าตั้งแต่นั้นมา..ซึ่งหมายถึงผู้เป็นใหญ่แห่งท่าน้ำ เรื่องราวปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์ และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เจ้าท่า มีมากมายไม่สามารถเล่าหมดได้
รวบรวมเรียบเรียงโดย อบ พลับพลาชัย
ราคาปัจจุบัน
99999
จำนวนผู้เข้าชม
5644 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
ชื่อร้าน
อบพลับพลาชัย
URL
เบอร์โทรศัพท์
0855241996
ID LINE
eob03
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงไทย / 316-1-42050-0




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี