ตะกรุดสี่มหาอำนาจ ลงวานิช ปิดทอง. ผิวหิ้ง ไม่เคยโดนสัมผัส. สวยมากกกกก นานถึงจะเจอสภาพแบบนี้


ตะกรุดของหลวงปู่เทียมมีด้วยกันอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดนั้นมีอุปเทห์แตกต่างกันไป

ตะกรุด 4 มหาอำนาจ พุทธาคมของตะกรุด 4 มหาอำนาจ (ตามใบฝอยที่มาจากวัด)

1.มหาระงับ - ใช้เพื่อระงับเหตุร้ายต่างๆ

2.มหารูด - ใช้เพื่อให้เกิดความเชื่อถือในสังคม

3.มหาอุด - ใช้เพื่อให้เกิดความคงกระพัน

4.มหานิยม - ใช้เพื่อให้เกิดความนิยมแก่ตน



จัดว่าเป็นตะกรุดที่สร้างชื่อให้กับหลวงพ่อมากที่สุด เพราะจากประสบการณ์และผู้สร้างท่านแก่กล้าวิชามากๆ ประสบการณ์สูงครบทุกด้าน ทั้งคงกระพันชาตรีมหาอำนาจ ครอบจักรวาล ขนาดว่า 10 ต่อ 1 ก็ยังลุยมาแล้วแค่มีตะกรุดสี่มหาอำนาจหลวงปู่เทียม สมแล้วกับการที่ว่าหลวงปู่เทียมท่านเรียนวิชาจบจากสำนักประดูทรงธรรมฯสำนัก เดียวกันกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติและท่านก็ยังได้ศึกษาตาราพิชัยสงครามของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว อาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรและเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวเป็นอย่างมากเพราะท่านเก่งทุกด้านไม่ว่าเป็นพระเวทย์พระธรรมคำสอน ว่ากันว่า ผู้ใดเมื่อได้ครอบครองตะกรุดสี่มหาอำนาจแล้ว เมื่อผู้นั้นหมดบุญวาสนาแล้วตะกรุดสี่มหาอำนาจก็จะหายไปเองอย่างน่าอัศจรรย์


หลวงพ่อเทียม ในสมัยมีชีวิตอยู่จะได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกพระเครื่องตามวัดต่างๆเป็นประจำ เช่น พิธีวัดประสาท ปี06 พิธีกริ่งนเรศวร ปี15 พิธีวัดเทพากร ปี13-15 เป็นต้น หลวงพ่อเทียม เป็นหนึ่งในพระเกจิไม่กี่รูปของประเทศไทย ที่มีโอกาสได้ถวายตะกรุดแก่ในหลวง

ตะกรุดของหลวงพ่อเทียม มีอานุภาพความขลังและศักดิ์สิทธิ์มากๆ เช่น ตะกรุดสี่มหาอำนาจ ตะกรุดไตรปิฏก ตะกรุดรัตนมาลา ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ เป็นต้น หลวงพ่อเทียม ศึกษาวิชามาจากพระเกจิยุคเก่าๆและฆราวาสก๋งจาบ สายวัดประดู่ทรงธรรม หลวงพ่อเทียม เป็นหนึ่งในพระเกจิ ที่ตะกรุดของท่านไม่หลอมละลายในพิธีปลุกเสกพระวัดประสาท ซึ่งมีอยู่ 3 ท่านที่ตะกรุดไม่ละลายในเตาหลอม และที่แปลกคือทั้ง 3 ท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักสายวัดประดู่ทรงธรรม แถมยังมีความสนิทสนมกันด้วย ได้แก่ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน หลวงพ่อเทียม มีอายุได้ 75 ปี มรณภาพปี 2522



หลวงปู่ท่านเป็นศิษย์สายสำนักวัดประดู่ทรงธรรม ที่สืบทอดตำราพิชัยสงครามและตำราพระเวทมาช้านาน ท่านเป็นศิษย์ของก๋งจาบฆราวาสจอมขมังเวท และยังเป็น ศิษย์ของหลวงพ่อต่างๆอีกหลายรูปด้วยกัน ตะกรุดของท่านมีทั้ง มหาปราบ มหาระงับ สี่สมิง สี่มหาอำนาจ และพิชัยสงคราม มีอิทธิคุณด้านแคล้วคลาด ป้องกันภัยอันตราย เป็นที่เกรงกลัวของผีสางที่จะทำอันตรายเรา ใครมีบูชาจะบังเกิดความร่มเย็นเป็นสุขแม้กระทั่งกันไฟกันฟ้ากันลมพายุ ครั้งหนึ่งท่านจารแผ่นโลหะเพื่อเป็นชนวนหล่อพระเครื่องที่วัดประสาท ปรากฏว่าแผ่นโลหะนั้นหลอมไม่ละลาย ของขลังของท่านจึงดีทุกอย่าง สมกับเป็นศิษย์ของสำนักวัดประดู่ครับ


ไม่มีที่ไหนในประเทศไทย หรือในแผ่นดินนี้บอกเอาไว้เลยว่า วิธีการลงอักขระเลขยันต์ พร้อมทั้งเครื่องบายศรี บัดพลี พิธีกรรม ตามตำราพิชัยสงครามนี้ได้ จะมีก็แต่ที่เมืองกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเท่านั้นที่ทำได้ (ที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร) พระอาจารย์ยุคเก่าๆ หลายท่านด้วยกัน ที่มีวิชาความรู้ในด้านธรรมชั้นสูง ด้านกรรมฐาน ด้านวิชาอาคมขลังอย่างยอดเยี่ยม คือพระอาจารย์ ยุคเก่าๆ สมัยก่อนหลายท่าน ในเมิองกรุงเก่า ที่ลงตำราพิชัยสงครามนี้ได้ และที่เป็น พระอาจารย์ยุคกลาง องค์เดียว องค์สุดท้ายเท่านั้นที่ลงได้ และได้รับการถ่ายทอด ตำราพิชัยสงคราม ตำหรับสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว เป็นองค์สุดท้าย รุ่นสุดท้าย องค์เดียวคือ หลวงปู่เทียม แห่งวัดกษัตราธิราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เท่านั้น.