พิมต้อไม่ตอกโค้ตครับ..เสียดายพระล้างผิวมา..พระพุทธชินราช อินโดจีน พิมพ์ต้อ วัดสุทัศน์ ปี2485

พระเครื่องที่ถูกเรียก ***ว่าทหารผี***
*ปะทะกับศัตรูที่ยิงต่อสู้กับเราแล้วไม่มีปืนใหญ่ หรือนกยักษ์ (เครื่อง บิน) มาสนับสนุน ไม่รู้จักหยุดยิง ไม่รู้จักหมอบ ไม่รู้จักคลาน ไม่รู้จักถอย เอาแต่วิ่งเข้าใส่ บางรายยิงไม่ตาย บางรายยิงไม่เข้า จงระวังไว้นั่นคือ........ทหารไทย *

พระพุทธชินราช อินโดจีน เป็นพระที่ปลุกเสก ดีที่สุดพิธีใหญ่ที่สุด ขลังที่สุด คนเฒ่าคนแก่ เขาเล่าให้ฟังดังนี้
พระพุทธชินราชอินโดจีน ตอนแรกนั้นเจ้าคุณศรีได้ขอรูปเกจิดังในยุคนั้น ที่มีชือเสียง มาโยนเข้าเตาไฟ ถ้ารูปใหนไม่ไหม้ค่อยนิมนต์ตัวจริงมาร่วมพิธี แกจำได้ว่ามีทั้งหมด115รูป ที่ไฟไม่ไหม้รูป จากนั้นจึงนิมนต์ตัวจริงมา แต่มาได้แค่106-108รูป แกจำไม่ได้แน่ชัด ส่วนหลวงพ่อที่มาไม่ได้ เพราะชรามาก แต่อธิษฐานจิตจากวัดไป บางรูปก็ลงตะกรุดฟากไปให้หลอม ตอนเสกยิ่งแล้วใหญ่ สายสินญ์ที่หลวงพ่อแต่ละรูปจับ กลายเป็นสีแดงๆคล้ายเหล็กร้อน พอเสกเสร็จ ก็มีการถ่ายรูปรวมเกจิ

พระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ทำพิธีตรงกับวันเสาร์ ขึ้น5 ค่ำ คือในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 ที่วัดสุทัศน์ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์ เป็นแม่งาน เป็นผู้ดำเนินงานทำพิธี ณ มณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถ วัดสุทัศน์ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย และได้มอบหมายให้ช่าง รับช่วงไปดำเนินงานต่อจนเสร็จ

พระพุทธชินราชอินโดจีน จัดพิธีปลุกเสก ขึ้นที่วัดสุทัศน์ และปลุกเสกในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ในวันที่ 21 มีนาคม เสาร์ 5 (วันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5) ปี พ.ศ. 2485 และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก 108 องค์

108 คณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสกพระพุทธชินราชอินโดจีน ในพระอุโบสถ วัดสุทัศน์ แต่ละคณาจารย์
อัดแน่นด้วยพุทธคุณ เพื่อตั้งใจใส่มหาอุตม์คงกระพันชาตรี เพื่อแจกทหารให้ไปรบในสงครามอินโดจีน
ขณะสงครามกำลังครุกรุ่น จากการที่พิพาทดินแดนกัน ทำให้ประเทศไทยต้องประกาศศึกกับฝรั่งเศส
เจ้านักล่าอาณานิคม จากสงครามในครั้งนั้นทหารไทยได้รับสมญานามว่า *ทหารผี* โดยมีผู้รู้เห็นเล่าว่า
ทหารเราโดนยิงเข้าเต็มอก อย่างจังๆ แทนที่จะตายดับดิ้น แต่กลับไม่เป็นไร แค่ล้มกลิ้งล้มหงายเท่านั้น
แล้วก็ลุกขึ้นมายิงสู้ต่อ เล่นเอาฝ่ายตรงข้ามนึกว่าทหารไทยเป็นทหารผี คงเป็นพระบารมีของพระพุทธชินราชอินโดจีน
ของทหารนั้นๆ ที่ได้รับแจกให้ไปรบเพื่อรักษาเอกราชของเรา ท่านจึงคุ้มครองป้องกันอันตรายทั้งหลายทั้งปวง
ไม่ให้ทหารไทยได้รับอันตรายแม้แต่คนเดียว *พุทธคุณเด่นทางคงกระพันยิงฟันไม่เข้า มีคนเล่ากันมาหลายคน ว่า
หลวงพ่อแต่ละรูปนั้นใครไม่เก่งจริง หรือ ไม่มีสมาธิ กระแสจิตที่สูงล่ะก็ นั่งทำสมาธิจับสายสิญจน์ไม่ได้
ก็เพราะว่าสายสิญจน์ที่แต่ละคณาจารย์ส่งกระแสจิตออกมามันร้อน ยิ่งกว่าสายลวดเตาไฟฟ้าที่เราใช้หุงข้าวเสียอีก*

**นี่เป็นคำพูดของ หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง** ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ท่านฟัง